งมปลา
คลองนี้ต้นคลองมาจากไหมผมก็ไม่รู้อีกแหละ เห็นคนที่เคยไปมาบอกๆกันมาว่ามาจากทางสระบุรี ปลายคลองคือไปออกที่แม่น้าเจ้าพระยา ยายเคยบอกว่าตอนยายมาจากกรุงเทพ อพยพหนีสงครามโลกมาจากบางกอกน้อย ก็มาทางเรือนี่แหละ ล่องๆมาพร้อมกับลูกๆพร้อมสิ่งของทั้งหลาย มาทางแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วมาขึ้นฝั่งที่หน้าบ้านยายนี่ได้เลย
หน้าน้ำคือช่วงที่น้ำจะขึ้น ผมอาศัยกะเอาจากขั้นบันไดที่ท่าน้ำที่บ้าน คือถ้าเป็นหน้าแล้ง บันไดหน้าบ้าจะมีทั้งหมดเกือบๆสามสิบขั้น ถ้าหน้าน้ำ บันไดทั้งหมดจะจมหายไปในน้ำหลายเดือน มากสุดเท่าที่จำได้คือเหลือไว้ให้เห็นแค่ขั้นเดียว หน้าแล้งก็จะเห็นโผล่มาทั้งหมดทุกขั้น รวมถึงเสาสะพานและเสาท่าเรือ และหน้าแล้งนี่แหละ คือฤดูงมปลา
เวลาน้ำแล้ง น้ำในคลองจะนิ่งๆ ถ้าจะไหลบ้างก็ไหลเอื่อยๆมากออกไปทางปลายน้ำ ในคลองน้ำจะสีขุ่นเกือบน้ำตาล เวลานี้คนหาปลาก็จะไม่ค่อยเห็นออกมาตกปลากันมากนักเพราะด้วยความที่เป็นหน้าแล้ง ปลาจะน้อย ดังนั้นเราต้องงมปลา
เรื่องงมปลานี่คนที่สอนผมก้คือไอ้แปด คนที่สอนไอ้แปดก็น่าจะเป็นพี่ชายคนโตของมันคือพี่เหน่ง นักล่าปลาตัวฉกาจของตำบล ปลาที่บ้านยายผมส่วนใหญ่ที่รับซื้อมา ถ้าไม่ได้มาจากตาเบิ้ม พ่อของไอ้แปด ก็เป็นพี่เหน่งนี่แหละที่เอามาขาย ดังนั้นผมจึงนับได้ว่าเป็นศิษย์ของไอ้แปดในเรื่องของการงมปลานี้
งมปลาคือการที่เราลงไปจับปลาจากในน้ำด้วยมือเปล่าๆนี่แหละ ปลามันจะอาศัยอยู่ตามเสา เหตุผลที่แท้จริงผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ถ้าจะให้เดาก็เพราะปลาต้องระแวดระวังตัวจากศัตรูในน้ำ ดังนั้น การเอา "หลังพิงฝา" ไว้ด้าใดด้านหนึ่ง น่าจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยจากการถูกโจมตีได้ อันนี้เดาล้วนๆ อย่าไปหาความจริงอะไรจากเรื่องนี้นะครับผมเดาเอาจริงๆ
เวลาจะงมปลา เราต้องเลือกเอาวันที่น้ำนิ่งๆ เวลาที่จะงมจริงๆก็แล้วแต่สะดวก แต่ไอ้แปดมันว่าช่วงบ่ายจะดี ปลานอน เพราะกินกลางวันเสร็จแล้ว ผมก็เห็นด้วยงึกๆงักๆกับมันเพราะเห็นตากับยายที่บ้านมักจะหลับช่วงบ่ายๆอยู่เสมอ ปลาในน้ำก็คงเป็นอย่านั้นมั๊ง
พอลงไป เราก็จะค่อยๆขยับๆตัวเข้าไปใกล้ๆเสาในน้ำก่อน จากนั้นถ้าเสาอยู่ในน้ำตื้นๆนี่สบาย แค่เอามือสองข้างลูบๆไปตั้งแต่ต้นเสาที่อยู่พ้นน้ำ ไล่ไปจนถึงโคนเสาที่อยู่ติดดินอย่างช้าๆ พอสันมือ หรือมือ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของมือสัมผัสกับตัวปลาเบาๆ ให้รีบคว้า หรือกำมือทันทีปลาจะถูกจับได้ด้วยมือเปล่าๆของเรานี่แหละครับ พอปลาอยู่ในมือแล้วให้รีบชูมือขึ้นมาเหนือน้ำ แล้วขว้างปลาขึ้นฝั่งก็ได้ หรือจะจับไว้ในมือก็ได้ นั่นก็เป็นอันว่าได้กินปลาในวันนั้นแล้ว
แต่ถ้าเป็นเสาที่อยู่ในน้ำลึกหน่อย ก็ต้องอาศัยความอึดสักนิด ทำแบบเดียวกัน แต่ต้องดำน้าลงไป และส่วนใหญ่ปลาที่อยู่ข้างเสาในน้ำลึก ก็จะเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ขึ้นไปตามลำดับใกล้ฝั่งหน่อยก็ปลาหมอ ปลาสร้อย ปลาตะเพียน ลึกหน่อยก็ปลาดุกปลาช่อน ปลาแขยง ปลากรายไปตามลำดับ
ช่วงแรกๆที่ผมหัดงมปลา ไอ้อ้วนก็ไอ้แปดนี่คือครูฝึก มันไม่ได้ลงมางม แต่มันนั่งอยู่บนตลิ่ง คอยสั่งให้ผมทำตามที่มันบอก บางทีก็บอกให้ย้ายเสา บางทีก็บอกให้ขยับตัว บางทีก็ให้ดำน้ำ ผมก็ทำตามที่มันบอกแหละ จนกระทั่งคราวที่จับปลาได้ตัวแรก เจ้าปลาโชคร้ายนั้นก็ถูกก่อไฟย่างกินกันริมคลองนั่นแหละ เพื่อเป็นการแสดงว่า ผมจบการศึกษาหลักสูตรงมปลา จากครูไอ้แปด และครูไอ้อ้วนเรียบร้อย
มีคราวหนึ่ง พวกเราสามคนนัดไปงมปลาที่ท่าน้ำบ้านยายตุ่ม เป็นบ้านที่อยู่เลยบ้านผมไปสักสิบเมตร กำลังเริ่มงมๆ ไอ้ตุ้ม ลูกชายคนโตของยายตุ่ม อายุก็คงราวๆรุ่นเดียวกับไอ้แปด มันก็ขอมาร่วมวงงมปลากับพวกเราด้วยเป็นสี่คน
งมๆกันไปก็ได้ปลาบ้างไม่ได้ปลาบ้าง สักประเดี๋ยวก็เห็นไอ้ตุ้มสะดุ้งตัวขึ้นจากน้ำ ชูมือขึ้นมาแล้วกุมมือ พร้อมแหกปากร้อง มือซ้ายที่เห็นมีเลือดไหลโกรกเป็นทาง พวกเราก็ตกใจอยู่พอสมควร ไอ้แปดร้องออกมามาว่า
"ขึ้นโว้ยพี่ ปักเป้าตอดไอ้ตุ้มเข้าแล้ว"
สิ้นเสียงไอ้แปด ผมกับไอ้อ้วนก็พุ่งพรวดขึ้นจากน้ำ ไปยืนขาสั่นพับๆ ดูไอ้ตุ้มยืนกุมมือเลือดอาบอยู่ริมตลิ่งไอ้ตุ้มก็แหกปากร้องไห้ลั่นๆไป พอสิ้นตกใจ ก็รีบพาไอ้ตุ้มวิ่งไปที่บ้านตา บอกตาว่าไอ้ตุ้มโดดปลาปักเป้ากัด ตาก็เลยรีบวางงานทำสวนแล้วพาไอ้ตุ้มเข้าห้องพยาบาล
ตกเย็นไอ้ตุ้มกลับไปบ้านแล้ว พร้อมผ้าพันแผลที่นิ้วกลางด้านขวา มันว่าโดนปักเป้าตอดเนื้อแหว่งไปหน่อยหนึ่ง เรื่องนี้พอไปถึงหูพี่เหน่งพี่ชายไอ้แปด เขาก็บอกว่าไอ้ตุ้มมันคงซวย ไปเจอเอาปักเป้าหวงลูก คือปักเป้าแม่ลูกอ่อน หรือปักเป้าหวงถิ่น ซึ่งปกติปักเป้าจะไม่กัดคนหรือที่เราเรียกตอด มันคงไปงมเอาบ้านของปักเป้าแม่ลูกอ่อนหรือปักเป้าหวงถิ่นเข้า เลยเจอตอด
"นี่ยังดี ไม่กันเข้าไอ้นั่น ขาดเลยนะพวกมึงทำเป็นเล่นไป มีคนเคยโดนมาแล้ว"
หลังจากนั้นมา ไม่ต้องถาม กิจกรรมงมปลาของพวกเราก็หายไปจากสาระบบการเล่นการหากิน ไม่ใช่อะไร ส่วนใหญ่เวลาลงเล่นน้ำคลอง บางทีเราก็ใส่กางเกงลงเล่นนะ แต่ส่วนใหญ่ ไม่ได้ใส่นะสิ แต่พอไอ้ตุ้มมันโดนปักเป้าตอด ทุกครั้งที่ลงน้ำนับแต่นั้นมา ก็ต้องใส่ให้ครบและกระชับ ใครจะรู้ เราอาจซวยเจอปักเป้าแม่ลูกอ่อน หรือปักเป้าหวงถิ่นตอดเอาตรง "ไอ้นั่น"ก็ได้ ใครจะรู้