ยิงกุ้งตกปลา



ยิงกุ้งคือการเอาเข็มเย็บผ้ามามัดที่ปลายไม้ครับ หาไม่ไผ่ตรงๆเหลาให้เกลี้ยงๆยาวสักศอกหนึ่ง หาเข็มเย็บผ้าจากจักรเย็บผ้าของยายสักสามอัน ถ้าไม่มีก็ต้องวิ่งไปซื้อ กำเงินวิ่งไปตลาด ร้านป้าใจขายเครื่องเขียน เล่มละสลึงห้าสิบสตางค์ ถ้าได้ยี่ห้อซิงเกอร์สั้นๆโคนสีเหลืองๆเหมือนชุบทองนี่ยิ่งดี ว่ากันว้าแข็งดีนัก ไม่หักไม่งอง่าย แล้วก็เอามาแบ่งๆกัน ไอ้อ้วนไอ้แปดแล้วก็ผม พอได้เข็มมา ได้ไม้เรียบร้อย ก็เอาเข็มมาติดปลายไม้ที่เตรียมไว้ พันด้วยด้ายหลายๆรอบ มัดให้แน่น ก็จะกลายเป็นฉมวกขนาดเล็ก จากนั้นเพิ่มความแรงในการยิงโดยเอาหนังยางมามัดที่อีกปลายหนึ่ง แล้วทำให้เมือนกับยืดได้ เพื่อจะยืดยางแล้วจับไม้ นึกถึงปืนยิงปลา แต่ใช้มือยืดยาง ยังไงยังงั้นเลย งานประดิษฐ์อุปกรณ์ล่าสัตว์น้ำจะเริ่มราวๆหลังข้าวเที่ยง จับกลุ่มง่วนกันอยู่ริมคลองจนกระทั่งกินข้าวเย็น แล้วค่อยมาเจอกันอีกทีตอนฟ้ามืด

กิจกรรมยิงกุ้งจะทำตอนหน้าน้ำ เมื่อน้ำขึ้นมากๆจนล้นฝั่ง และท่วมไปทุกๆที่ ทำให้ทั้งอำเภอต้องเปลี่ยนการสัญจรจากทางบกเป็นทางน้ำตลอดสามสี่เดือน น้ำท่วมอยุธยานี่ไม่ได้เป็นอุทกภัยอะไรนะครับ เป็นเรื่องปกติของทางภาคกลางอยู่แล้ว หน้าฝน น้ำเหนือหลากมามากๆ ก่อนจะเข้ากรุงเทพผ่านเจ้าพระยาก็ต้องมาแวะอยุธยาและเจิ่งนองเป็นที่รับน้ำก่อน แล้วก็ค่อยๆระบายออกไปทางทะเลที่สมุทรปราการจนหมดฤดู

ตอนน้ำท่วม ไต้ถุนบ้านยายผมก็จะนองไปด้วยน้ำใสๆ เรือที่จอดอยู่ไต้ถุนบ้านตอนหน้าแล้งก็จะถูกหงายขึ้นมาเพื่อใช้งาน ไม้พายสองอันที่ซ่อนไว้หลังประตูบ้านตลอดฤดูแล้งก็จะถูกนำลงมาเตรียมไว้ในเรือ ปกติหน้าแล้ง เรือจะพายวนไปวนมาแค่ในคลอง ไม่ได้ไปไหนไกลมาก หรือถ้าไม่ได้ใช้จริงๆก็จะถูกคว่ำขึ้นคานเรือไว้ไต้ถุนบ้าน แต่พอหน้าน้ำ เราสามารถพาไปเรื่อยๆลัดไปไหนมาไหนได้ ออกจากใต้ถุนบ้านผม ผ่านบ้านพี่ป้อม ผ่านบ้านไอ้แปด ออกไปทางคลองหลังอำเภอ และออกไปถึงกลางทุ่งนา เห็นตาเบิ้มพ่อไอ้แปดบอกว่าแกเคยพายเรือไปเรื่อยๆไปจนเข้าสระบุรีก็ทำได้

พอฟ้ามืด ไอ้อ้วนกับไอ้แปดก็จะมานั่งรอที่ท่าน้ำบ้านผม ทุกคนก็จะมีไฟฉายคนละกระบอก ไม้ติดเข็มยิงกุ้งคนละอัน จากนั้นเราก็จะทดลองยิงกุ้งเพื่อทดสอบเข็มยิงกันก่อนที่ปลายท่าน้ำ โดยการเอาไฟฉายส่องไปตามเสาที่ปักอยู่ในน้ำ แสงไฟฉายจะสะท้อนกับตากุ้งฝอยที่กำลังง่วนอยู่กับการกินตะไคร่น้ำที่จับอยู่ที่ต้นเสา เห็นเป็นสีขาวๆ ค่อยๆยางยืดเข็มฉมวกออก เล็งไปที่ตัวกุ้ง ปล่อยมือปุ๊บฉมวกยิงก็จะแล่นไปปักเข้าที่ตัวกุ้ง จากนั้นถ้าฉมวกถูกมัดมาแน่นหนา ตอนดึงออกมาก็จะได้กุ้งติดมาที่ปลายฉมวก แต่ถ้ามัดด้ายไม่แน่น เข็มฉมวกจะติดคาอยู่กับเสาพร้อมตัวกุ้ง ลำบากต้องมาแก้ไขกันอีกสักพัก จนกว่าจะได้ฉมวกที่พร้อมยิง

พอพร้อมยิง เราก็จะออกเดินลงไปในน้ำไต้ถุนบ้านยาย ต่างคนต่างเดินไปคนละทาง ยิงกุ้งยิงปลากันไปเรื่อยๆ กุ้งส่วนใหญ่ที่ได้จะเป็นกุ้งฝอย ตัวขนาดไม่ใหญ่มาก มีอยู่มากมายตามโคนเสาและพื้นดินใต้ถุนบ้านยาย ต่างคนต่างเดินยิงกันไปเรื่อยๆ พอได้กันสักคนละสิบยี่สิบตัวก็กลับมารวมกันที่ท่าน้ำ

กุ้งที่ได้ส่วนใหญ่ไม่ได้เอาไปกินหรอก มันไม่เยอะพอสำหรับจะเอาไปกินได้สักมื้อหนึ่ง ที่ได้มาก็จะเก็บใส่ขวดกาแฟปากกว้างๆหล่อน้ำไว้สักหน่อย เพื่อเวลาเช้ามาก็เอากุ้งฝอยที่ยิงได้มาเป็นเหยื่อตกปลาอีกทีหนึ่ง 

พอเช้าวันเสาร์อาทิตย์ เราไม่ได้ไปโรงเรียน ไอ้อ้วนกับไอ้แปดและผมก็จะถือคันเบ็ดตกปลามาคนละคัน เอากุ้งฝอยที่ได้มาจากการยิงเมื่อคืนมาด้วย มองหาที่เหมาะๆที่ปลายท่าน้ำบ้านยาย เกี่ยวกุ้งเข้าที่ตัวเบ็ด งอๆให้ตัวกุ้งงอไปตามตัวเบ็ด แล้วหย่อนเบ็ดลงไปที่ด้านซ้ายของสะพาน เพราะน้ำที่ไหลจากทางด้านซ้ายของสะพาน จะพัดเอากุ้งฝอยไหลเข้าไปใต้ท่าน้ำ ซึ่งเทคนิคนี้ก็ได้ไอ้อ้วนเป็นผู้บอกกล่าว มันว่าปลากรายจะอยู่ภายใต้เงามืดๆของสะพานท่าน้ำเยอะมากเพื่อนอนหลบแดดตอนกลางวัน

จริงของไอ้อ้วนที่มันว่า หย่อนเบ็ดลงไปแป็บเดียว เราก็ได้ปลากรายตัวแรกขึ้นมา จากนั้นก็ได้ปลาแขยงบ้าง ตะเพียนบ้าง หรือปลาสร้อยบ้างก็มี ต่าคนต่างตกจนหมดกุ้งฝอยที่ยิงมาได้เมื่อคืน หากยังคันไม้คันมือยังไม่อยากเลิก ก็ให้วิ่งไปเอาข้าวสวยมาสักช้อนหนึ่ง เกี่ยวเบ็ดเข้าแทนที่กุ้งที่หมดไป ก็จะได้ปลามาพออยู่เหมือนกัน

พอเลิกตกปลา ต่างคนก็จะแยกย้ายกันกลับบ้านพร้อมปลากันคนละกระเต๋ง อ้ออยุธยาเรียกถังน้ำว่ากระเต๋ง ไม่ต้องตกใจครับ เคยมีคนกทม.อย่างภรรยาผมเห็นเป็นเรื่องขำอยู่หลายหน อีตอนผมบอกให้ไปหยิบกระเต็งมาหน่อย แหมพูดละก็เขิน ปลาในกระเต๋งที่ได้มาผมก็จะหิ้วขึ้นบ้านไปวางไว้หลังครัว แล้วก็บอกยายว่าได้ปลามานะ  จากนั้นก็วิ่งออกไปหากิจกรรมทำต่อ ยายก็จะเอาปลาที่ได้มาตัดหัวผ่าท้อง ตัดครีบออก  ปลากรายถ้าไม่ใหญ่มากก็เอามาทอดกินกรอบๆจิ้มน้ำปลา ถ้าใหญ่มากก็ทำต้มยำ ปลาแขยงก็ทอดกรอบเข้าและเอาไปราดพริกทำปลาราดพริกได้ ถ้าปลาตะเพียนเยอะหน่อย ก็เอาทาเกลือตากแห้งไว้ปลายท่าน้ำทำปลาเกลือไว้กินได้หลายๆมื้อ หรือถ้าขยันยิงกุ้งมากๆ มีปลามามากๆ ยายก็จะทำปลาเกลือตากแห้งได้มาก ยายก็จะถือเอาติดมือไปตลาด เอาไปให้กับญาติของยายที่ชือป้าไพ แกขายขนมไทย พวกทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมชั้นขนมตาล ข้าวเหนียวสังขยาทำเองและอีกสิบร้อยขนมไทย แกขายอยู่ตีนสะพานที่จะข้ามจากฝั่งตลาดมาฝั่งอำเภอ เช้าๆพอผมเดินไปโรงเรียนต้องผ่านร้านขนมแกทุกวัน ป้าไพก็จะเรียกไปเอาขนมฟรีมากิน แกว่าแลกกับปลาเกลือที่ยายบอกว่าเราหามาให้ยาย นับเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของการล่ากุ้งมาตกปลาของผมกับไอ้แปดและไอ้อ้วน คือเอาปลามาแลกได้ขนมหวานกินทุกวันไป 




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รู้จักไหม ยอดแหลม น่ะ ยอดแหลม

คุณเชื่อเรื่อง พรหมลิขิตไหม....

ดนตรีเศร้าหมองแห่งการบำบัด